top of page

ANABOLIC STEROID คืออะไร และสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก่อน

Anabolic Steroid ถ้าพูดง่ายๆ คือ ตัวเรียกกลุ่มของฮอร์โมน ซึ่งมีทั้งฮอร์โมนที่ธรรมชาติและไม่ธรรมชาติ หลายๆ ตัว วนเวียนอยู่ในร่างกายอยู่แล้วและจะต้องออกผลกับ Androgen Receptor เท่านั้น เช่น Testosterone, Dihydrotestosterone เป็นต้น โดย Anabolic Steroid เป็นยาคนละกลุ่มกับสิ่งที่เรียกว่า Corticosteroid ซึ่งเป็นคลาสหนึ่งของยาที่ใช้ลดการอักเสบ และการมีเอาไปแอบใส่ในยาสมุนไพร ครีมทาหน้า ที่เมื่อใช้ไปจะเกิดผลข้างเคียงมาก

Anabolic Steroid ในทุกวันนี้เหลืออยู่ไม่กี่ตัว ที่เป็นตัวขายหลักจริงๆ หลักๆ มี

  • Testosterone

  • Nandrolone

  • Boldenon

  • Trenbolone

  • Oxandrolone

  • Methenolone

  • Methandienone

  • Stanozolol

  • Mesterolone

  • Drostanolone

เดิมทีทุกตัวเลย ทำเมื่อเพื่อ "รักษากลุ่มโรคที่เกี่ยวกับการสูญเสียกล้ามเนื้อ มวลกระดูก และ/หรือ รักษามะเร็งเต้านม"

ทีนี้ ด้วยความที่มันทำออกมาแบบนั้น มันก็เลย "เพิ่มกล้ามลดไขมัน" โดยที่จริงๆ แล้วตัวมันเองไม่ได้มีอันตรายอะไร ยกตัวอย่่าง ถ้ากินยาแก้ปวดโดสเกินไปสัก 10 เท่า ก็คงจะไตวายตายได้ แต่ Testosterone ก็สามารถใช้ได้ถึง อาทิตย์ละ 3,000 - 5,000 mg ได้ ถ้าขนาดตัวใหญ่จริงและจัดการระบบได้ดีจริง

ผลข้างเคียงต่างๆ มักจะไม่ได้เกิดจากตัวยาเองตรงๆ ถ้าใช้อย่างถูกต้อง แต่เกิดจากสิ่งที่มันไปทำกับระบบ โดยเมื่อใช้เข้าไปสิ่่งที่เกิดแน่ๆ คือ

  1. ยาเข้าสู่กระแสเลือดและวิ่งไปจับกับส่วนที่มี Androgen Receptor เพื่ออกผล

  2. ยาบางตัวจะถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อรักษาสุมดุล***** ถ้าน้อยไป จะเสียคุณสมบัติการป้องกันระบบประสาทและสมอง ผิวเสีย ผมร่วง ส่งผลถึงความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น กล้ามไม่ขึ้น ถ้ามากเกินไป ก็จะไขมันขึ้นง่าย (แต่จริงๆ มันมากเกินไปยาก เพราะอัตราการเปลี่ยนมันน้อยกว่า)

  3. เม็ดเลือดแดงจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเพิ่มมากแล้วเลือดข้นเกิน สิ่งที่จะตามมาคือระบบหมุนเวียนเลือดจะไม่ดี กระทบต่อระบบไต การจัดการของเสีย วิธีแก้คือเปิดมันออก คือ ทำให้เลือดบางลง (Clopidogrel 75 mg, Aspirin 81 mg และ/หรือ ขยายหลอดเลือดด้วยยาหรืออาหารเสริม (Tadalafil 5 mg ed หรือ Arginine 2000 - 3000 mg ed)

  4. ตับอาจจะทำงานหนักขึ้นซึ่งจะบอกโดยค่า AST ALT ที่สูขึ้น ถ้ามีการใช้ยาเม็ดบางตัว แต่ค่าที่สูงขึ้น ไม่ได้บอกว่าเป็นตับอักเสบหรือไม่้

  5. สิวแบบนิดหน่อยและหน้ามัน เป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้ เมื่อใช้อย่างถูกต้อง แต่ถ้าใช้ผิด (ถึงจะใช้น้อย แต่ถ้าน้อยแบบผิดๆ ก็คือผิด) ยกตัวอย่างเช่น  เทสปอป 0.5 วันเว้นวัน กับพรีโม สิ่งที่จะเกิดคือ ร่างกายหยุดผลิตเทส ทำให้ตัวเอสโตรเจนหายไปด้วยเพราะใช้พรีโม เทสปอปที่กะว่าจะใช้โดสต่ำเพราะกลัวสิว ก็แปลงได้น้อย ดังนั้น จะเจออาการเดียวกับข้อ 2 คือสิวมาแต่กล้ามไม่ขึ้น

ดังนั้น วิธีการใช้ Anabolic Steroid ที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องจัด STACK

หมายความว่า

  1. เริ่มใช้ Anabolic Steroid คึอ Testosterone Enanthate ก่อนเป็นตัวแรก ถ้ามีงบ ใช้ตัวเสริมอื่นด้วย เช่น MK677 และ/หรือ Growth Hormone

  2. เมื่อได้ "โดสที่ชอบ" สามารถพิจารณาว่าจะใส่ตัวไหนเข้ามา เพราะ "ทุกตัวเพิ่มกล้ามลดไขมัน แต่ต่างกันตรงการที่มันเล่นกับระดับน้ำในกล้าม/ผิวที่ร่างกาย ต่างกัน ยกตัวอย่าง Dbol น้ำจะเข้ากล้ามไว แต่ไปใต้ผิวด้วย Trenbolone พอใช้ มันจะดึงน้ำใต้ผิวออกเลยส่วนนึง เป็นเหตุผลว่า ออนเทสมาสูงๆ นานๆ พอใช้เทรนไปด้วยช่วงแรกๆ น้ำหนักจะลงก่อน เพราะน้ำมันแห้งลง ดังนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่น้ำหนักแต่เป็น กระจก

  3. จากข้อ 2 อีกอย่างที่ต่าง คือระดับฮอร์โมนเพศหญิงที่จะสูงต่ำตามตัวยา ซึ่งไม่ได้มีค่าที่  perfect อะไร แต่ใช้จากการดูกระจกเป็นหลักเอา ถ้ามันสูง เนื้อจะขึ้นได้ดี แต่ก็จะฉ่ำเยอะ มีโอกาสไขมันขึ้นเยอะกว่า (ฉ่ำกับอ้วน ต่างกัน) ถ้ามันแค่ฉ่ำ กล้ามท้องก็อยู่ สลับยา กินยาขับน้ำนิดหน่อย ก็แห้งแล้ว

  4. ถ้าจับจุดได้แล้ว มันจะสามารถวนไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเลิกใช้เลย

ใช้แล้วมีลูกได้ไหม ?

มีได้แน่นอน เพราะไข่ไม่ได้โดนตัดหายไปไหน หลักการกระตุ้นอสุจิ ทำได้ตลอด ขนาดคนที่ฝ่อ ยังมีวิธีกระตุ้รนให้มันออกได้ ยาที่ใช้แบบจงใจให้ไข่ฝ่อ ยังต้องฉีดทุกๆ กี่เดือนเลย ไม่งั้นก็ขึ้นมา แต่ขึ้นช้ากว่าใช้ยากระตุ้น (HCG, HMG, Tamoxifem, Clomid) แล้วเราก็เรียกไอการกระตุ้นหลังเลิกใช้ว่าการทำ PCT (Post Cycle Therapy) ซึ่งจริงๆ คนเลิกใช้ที่น้อยมาก ถ้าใช้จนจับจุดได้แล้ว

ใช้แล้วผมร่วงไหม ?

ตัวยา่มันเองไม่ได้ทำให้ร่วง แต่จากข้างบน ถ้าฮอร์โมนไม่สมดุล ก็อาจจะร่วง ลองดูดีๆ ลูกค้าคลีนิคปลูกผม ก็แทบไม่มีคนเล่นกล้าม ดังนั้น ผมร่วง ไม่ได้ correlate กับการใช้ฮอร์โมนโดยตรง แต่ฮอร์ฺโมนสามารถเร่งให้มันเป็นไปตาม pattern ที่กำหนดไว้แล้วเร็วและเยอะขึ้น เอาง่ายๆ ถ้าออนเทส เคราจะขึ้น แล้วถ้าออนเยอะๆ ขนที่ตัวจะขึ้นด้วย ผมอาจจะร่วงหรือไม่ร่วงก็ได้แล้วผมคิดว่า การปลูกผมมันจบที่สุด ราคาไม่ได้แพงแล้วแล้วผมที่ปลูกจะเป็นผมที่ไม่โดนฮอร์โมนกระตุ้นให้ร่วง คือปลูกแล้วก็อยู่แบบนั้น

LDL คลอเรสโตรอลตัวไม่ดี สูงขึ้น จะเสี่ยงต่อโรคหัวใจไหม ?

ต้องแยกก่อนว่า คลอเรสโตรอลตัวไม่ดี ไม่มีอยู่จริง LDL ถ้าไม่มี ก็ตาย LDL คือตัวที่ถูกส่งออกมาจากตับ เพื่อไปถูกใช้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่วน HDL คือตัวที่พาตัวที่หมดหน้าที่แล้ว ไปวน recycle หรือ วนไปทิ้ง ดังนั้นต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกัน เช่น ค่า CRP ที่บอกการอักเสบ หรือบางคนถ้ามีอาการน่าสงสัยบางอย่าง เช่นออกกำลังแล้วเหนื่อยง่ายมาก ก็ควรไปเช็คก่อนว่ามีโรคร้ายแรงเช่น ลิ้นหัวใจเสื่อม/รั่ว แอบอยู่หรือไม่

คนทั่วไปใช้ได้ไหม ?

ใช้ได้และใช้ได้ดีมาก ดูแลหุ่นง่ายครับ แล้วการมีฮอร์โมนสูงทำให้ Alert ฟิต ความคิดไว ไม่แก่ ไม่เสื่อม ไม่เหี่ยว

ผู้หญิงใช้ได้ไหม ?

จะยุ่งยากกว่าผู้ชาย เพราะมันก็การเข้าฮอร์โมนชายเข้าตัว ต้องมีการดูอย่างละเอียดว่ามันจะเหมาะกับเป้าหมายจริงๆ ไหม (แต่พวก Growth Hormone ใช้ได้ปกติและได้ผลดีมาก เพราะไม่ใช่ฮอร์โมนเพศชาย)

ก็ประมาณนี้นะครับ กับหลักการทั่วๆ ไป ที่ควรรู้

แล้วมันก็มียาอื่นอีกมากที่เกี่ยวกับระบบอื่น เช่น ไทรอยด์ ซึ่งถ้าสามารถรู้จักระบบทั้งหมด

โดยไม่ยึดติดกับการท่องตัวยา มันก็จะเข้าใจได้กว้างขึ้น ครับผม

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram
bottom of page