top of page
รูปภาพนักเขียนเจ้าของไงจะใครล่ะ

วิธีออนทั้งปี ให้เป็นชีวิตปกติ

จริงๆ แล้ว ของพวกนี้ สามารถใช้ทั้งปีได้อยู่แล้ว เพราะทุกตัวก็เป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่แรก คือมีความปลอดภัยนั่นแหละ ถ้าเลือกใช้โดสได้ถูกต้อง และปริมาณเหมาะสมกับขนาดตัว


แล้วสำหรับคนมีโรคประจำตัวล่ะ ? ก็ใช้ได้เว้ย เช่น

  • เป็นเบาหวาน อันนี้จริงๆ ถ้าใช้อินซูลินอยู่แล้ว ก็ย่อมเอามาเล่นกับการทำกล้ามได้ โดยไม่ต้องเป็นห่วงระบบเดิม เพราะมันเสียไปแล้วไง

  • เป็นความดัน ก็ใช้ได้ แต่แค่เลือกโดสให้ดี เลี่ยงตัวที่ทำให้ความดันสูง แล้วก็ดูการบวมน้ำหน่อยนึง

  • เป็นโรคหัวใจ อันนี้ต้องไปดูที่สาเหตุ ถ้าเป็นเส้นเลือดอุดตัน แต่ผ่านการทำบอลลูน คุณก็คือคนปกติ แต่แน่นอนอาจมีการกินยาประเภทคุมคลอเรสโตรอล ยาที่ทำให้เลือดบาง อะไรว่าไป

โรคที่เป็นแล้วทำกล้ามยาก มีแค่ 2 อย่าง คือ ตับ และ ไต แต่เอาจริงๆ คนเป็น 2 โรคนี้ ก็ตายไปครึ่งตัวแล้ว โดยเฉพาะโรคไต ตายตั้งแต่ก่อนมาเล่นกล้าม


วิธีการก็คือว่า ต้องมองออกก่อน ว่านี่ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เมืองนอก ทำกันเป็นปกติ คนที่มีเงิน อยากทำหุ่น ก็จะไปซื้อสินค้ามา เพื่อที่จะเพิ่มกล้ามเนื้อ เพิ่มประสิทธิภาพ ของตัวเอง เมื่อก่อน ยุค 60 70 80 90 มันก็มีขายร้านขายยา แต่เหตุผลไรไม่รู้ มันก็โดนถอดไป ทุกวันนี้ทุกยี่ห้อ ดีที่สุดคือผลิตเสร็จจากที่จีน แล้วคนขายลึกพอ ซึ่งก็หาได้ที่ไทย ที่ผลิตเสร็จดีสุดเพราะมันเป็นโรงงานจริงๆ แต่พวกผลิตจากยุโรป หรือส่งจากยุโรป ส่วนมากจะเป็นพวกสั่งผงยาไป แล้วทำที่โรงรถหรือโกดัง แต่มันก็จะมีฟามาจากบางแหล่ง เช่น มอลโดวา ปากีสถาน หรือไทย ซึ่งผงมันก็มาจากจีน ส่วนฟามาจากอเมริกา เป็นไปไม่ได้ สัส ส่วนพวกยาปศุสัตว์ ไม่แน่ อาจจะมี แต่มันมีการตรวจสอบ


เมื่อเข้าใจว่าสินค้าพวกนี้เป็น MEDICAL PRODUCT มันก็จะเห็นภาพง่ายขึ้น คือเราก็แค่หยิบพวก MEDICAL PRODUCT มาใช้ เพื่อให้กล้ามมีขนาดใหญ่ขึ้น

วิธีการออนคือ ก็ง่ายๆ Testosterone มันต้องมีอยู่แล้ว ก็ซัดเข้าไป ก็รู้อยู่แล้ว โดสเพิ่มประสิทธิภาพแบบชัดๆ คือ 500 mg ต่อสัปดาห์ ขึ้นไป อันนี้มันก็เป็นตัวหลักที่เพิ่มพลังแล้ว กล้ามมันควรจะขึ้นแล้ว ถ้าเป็นคนปกตินะ


ต่อมา เวลาจะเสริมตัวยาเนี่ย ยามันจะแยกเป็นกลุ่มๆ ใช่ไหม ถ้าจะเพิ่มความ Anabolic ก็เลือกฮอร์โมนอื่นมาเสริม เช่น

  • อยากได้ PEAK เลย ก็ใส่ TREN

  • อยากได้ความอยากอาหาร ความอึดเรื่อง CARDIO ก็ใส่ EQ

  • อยากได้ความ Anti Estrogen ก็ Masteron ก็กดหัวนมได้ โดยไม่ต้องกินยา Arimidex

  • อยากได้ความรุนแรง อารมณ์ ก็ใส่ HALO

  • ช่วงนี้อยากเร่งลดไขมัน ใส่ CLEN หรือ T3

  • อ่ะเงินเยอะช่วงนี้ ใส่ HGH + T4

  • เงินน้อยๆ แต่อยากแน่นๆ อยากคัท ก็สตาโนไง จะใช้ทำไมพรีโม

คือมันก็หยิบมาใส่ได้เลย ยาแม่งแม่งเป็นสิบๆ ตัว จิ้มมาใส่ยังได้

ไม่ต้องมีตาราง ทำไมไปทำไมเหรอตาราง แต่อย่าลืมอีกข้อ ในเมื่อ Test C 500 mg/week กล้ามขึ้น

การหยิบยาอื่นมาใส่ ต้องคิดถึงปริมาณยารวมต่อสัปดาห์และเหตุผลด้วย ไม่ใช่หยิบแบบ Test C 500 + EQ 800 + VAR 60 mg/day


แล้วปัญหาส่วนมากมาตอนไหน มาตอนไปทำตามตารางมั่วๆ 555555555

ปัญหาเกิดจากการใช้ยาโดยไม่รู้เรื่อง สิ่งที่ตามมาคือ PANIC

พอไปถามร้าน แม่งก็ไม่รู้ ตอบมามั่วๆ ก็ยิ่งมั่ว


สิ่งที่ควรระวังคือเรื่อง (ยาด้าน) บางคนจะบอกไม่มี หรือ ถ้าสลับยาเป็น จะไม่มี

แต่คือมันเป็นสิ่งเดียวกัน เมื่อใช้ไปสักพัก ร่างกายมันจะพยายามจัดสมดุลอยู่แล้ว สิ่งที่ตามมา ผลของยามันจะลดลง สิ่งที่ต้องทำ ก็แค่ ลดโดสชั่วคราว หรือ กระโดดไปตัวอื่น เรื่องนี้จะเกิดกับคนใช้ HGH เช่นกัน ใช้แบบฟามา ก็เป็นได้ คือว่าใช้ไปนานๆ ร่างกายมันเริ่มรู้ ว่าเห้ย อันนี้ เกินนะ ต้องต่อต้านมัน ผลของยาจะลด ก็แก้เหมือนเดิม คือหยุดชั่วคราว กระโดดไปตัวอื่น



มันก็จะออกมาประมาณว่า ใช้ Test C 500 mg + HGH 8 IU + TBOL 40 MG/วัน ใช้ไปสัก 3 เดือน

อาจสลับเทส เป็น Test Prop 100 mg วันเว้นวัน เดี่ยวๆ ก็ได้ แล้วกลับมาเทสอีใหม่

หรืออาจจะแค่ลดเทสอีลง คือมันง่ายๆ แค่นี้เอง


เรื่องของผลข้างเคียง ?

อันนี้คือคนก็เข้าใจผิด เวลาออน ไม่ได้ออนตัวเดียว ผลข้างเคียงจึงต้องดูจากยาและการใช้ชีวิตทั้งหมดรวมกันแล้วมันเกิดอะไรขึ้น แล้วแบบนี้ผลข้างเคียงจะบอกไม่มีก็ได้ เพราะคนใช้ไม่ฝืนตัวเอง แต่มีอิสระที่จะเลือกว่า เออ แบบนี้ได้ว่ะ เข้าดี ใช้แบบนี้ ไม่ใช่ดันทุรังตามตารางใครก็ไม่รู้ ซึ่งผลข้างเคียงวิธีจัดการมันง่ายมาก เช่น

  • รู้สึกบวมน้ำ เจ็บหัวนม ก็สามารถใส่ Masteron ได้ ก็จะหาย

  • รู้สึกผมร่วง ก็อาจจะดูว่า ยาที่เป็นแนวๆ ยาแห้ง เยอะเกินไปไหม อาหารที่กิน ไขมันน้อยไปไหม

  • ค่าไตสูง กินโปรตีนเยอะไปไหน หรือบ้าซ้อมเกินไปไหม ค่าไตนี่พวกวิ่งเยอะๆ กินคลีนจัด ระวังให้ดี

  • สิวขึ้น ก็ต้องดูว่า ลองใช้สบู่ SULFUR ทา NIZORAL CREAM แล้วมันหายไหม หรือถ้ามันแบบภูเขาไฟระเบิด ต้องพิจารณาว่าของที่ใช้ ทำให้เกิดการอักเสบ อาจจะแบคทีเรียหรือโลหะหนักเจือปนสะสม

จริงๆ ออนยาวๆ มันง่ายกว่า ออนๆ หยุดๆ มาก เพราะว่าการทำ PCT เนี่ย ทำจริงๆ ต้องทำให้มั่นใจว่าฮอร์โมนกลับมาปกติ คือต้องเตรียมเงินรอไว้เยอะๆ เผื่อมันมายาก

ก็แค่นี้นะ คือถ้าเข้าใจว่าเป็น MEDICAL PRODUCT ผมก็มองว่าจะเห็นอะไรชัดขึ้น ที่เหลือมันก็รู้เอง เพราะมันไม่ได้ใช้แปปเดียวนะ ใช้กันหลักสิบปีนี่เรื่องปกติ ถ้ามันอันตรายโดยตัวมันเอง จะมีใครใช้เป็นสิบปีไหม มันก็คงไม่มี ครับ

ส่วนเรื่องเงิน มันไม่ได้มากไปกว่าเงินซื้อของกิน ซึ่งผมคิดว่า มันใช้น้อยกว่าค่าของกินเยอะ

อยู่ที่การเลือกใช้ ก็ไม่ควรจะมีปัญหาอะไร แต่แน่นอน ยิ่งตัวใหญ่ ยิ่งแพง

ดู 19,692 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page