top of page
รูปภาพนักเขียนเจ้าของไงจะใครล่ะ

SARMs ณ ปัจจุบัน และการนำไปใช้

อัปเดตเมื่อ 18 ก.ค. 2565


เวอร์ชั่นเต็ม



อันนี้มันเป็นงานวิจัยแบบกว้างๆ ที่ทำแล้วจริง ๆ ในเรื่องของการใช้เพาะกายแน่นอนว่าจะมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไป ซึ่งส่วนมากก็จากรีวิวนะ เพราะเท่าที่ผมดูส่วนมากในเนทจะก็อปๆ กันมา คล้ายๆ ที่บอกว่ายานายแบบผมไม่ร่วงนั่นแหละ

แต่ว่าการอ่านสองข้างบน ก็จะทำให้เข้าใจว่า - มันเป็นมายังไง - ใช้เพื่ออะไร ทำงานอย่างไร

ทำให้ใช้ได้อย่างสบายใจครับ


อันนี้จะเป็น version สรุปแบบรวบรัดนะครับ แต่ละตัวในการใข้จริงจะมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปนะครับ การจัด STACK เช่นกัน เดี๊ยวจะแยกให้เป็นหัวข้อใหม่ครับ

ในร่างกายของคนเราเนี่ย จะมี AR (Androgen Receptor) หรือตัวรับ Androgen อยู่เยอะมาก ไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งการตอบสนองกันระหว่าง AR กับ Androgen (ฮอร์โมนต่างๆ anabolic steroid ต่างๆ) นั้นจะให้ผลแตกต่างกันไป และมีผลโดยตรงต่อ ความหนาแน่นของกระดูก ความแข็งแรง พละกำลัง ระบบเผาผลาญ หรือแม้กระทั่งสมอง


แล้วก็เป็นที่รู้กันว่า Anabolic Steroid ก็มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย อย่างยาวนานและพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกต้อง แต่มันก็มีผลข้างเคียงหลายอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้


SARMs ก็คือยาที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยที่เมื่อจับกับ AR สามารถเป็นได้ทั้งตัวแทนของ androgen หรือเป็นตัวต่อต้าน androgen โดยตัวเคมีถูกโปรแกรมว่าให้ทำแบบไหน ณ AR ที่จุดไหน คือมันมีความ เฉพาะเจาะจง ในการพุ่งไปที่เนื้อเยื่อที่ต่างกัน นั่นเอง


การทดลองแบบ Basic ก็มีมานานแล้วเพื่อหาโครงสร้างที่เหมาะสม การทดลองได้ถูกทำอย่างหลากหลาย แล้วผลที่ได้ก็น่าพอใจ ได้แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มที่จะนำไปรักษาโรคร้ายแรงได้หลายโรค เช่น อัลไซเมอร์ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก กระดูกพรุน ต่อมลูกหมากโต

ประวัติแบบสั้นๆ

ในยุคปี 90 เนี่ย เริ่มมีการเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ SERMs (Tamoxifen, Nolvadex) ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งชื่อเต็มคือ Selective Estrogen Receptor Modulator นั่นเอง ตัว SARMs ก็คือเปลี่ยนจาก Estrogen Receptor เป็น Androgen Receptor ถ้านึกภาพแบบนี้ก็จะเข้าใจมากขึ้น


อย่างที่รู้กันว่าการใช้ Anabolic Steroids หรือการรักษาด้วยฮอร์โมนสามารถนำไปสู่ผลการรักษาที่ดีได้มากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีผลข้างเคียงส่วนหนึ่งที่เกิดจาก "การที่มันไม่มีความเฉพาะเจาะจง คือสามารถไป activate ตัวรับตรงจุดไหนก็ได้ ทำให้เกิดผลข้างเคียง" ผู้เขียนขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น พรีโม ซึ่งบนกระดาษบอกว่ามีความ androgenic ต่ำมาก จะไม่ทำให้เกิดผมร่วง แต่เมื่อใช้จริง ก็ร่วงเพราะโดยพื้นฐานมันก็ไป activate ที่ตรงรากผมเร่งปฏิกิริยาจนมันร่วงได้โดยไม่มีข้อยกเว้นนั่นเอง โดยแต่ละตัวก็จะมีลักษณะการ activate ที่ต่างกัน มันก็เลยว่าร่วงมาก ร่วงน้อย สิวมาก สิวน้อย สิวไม่ขึ้น นั่นเอง แต่จริงการใช้ฮอร์โมนนั้นต้องดูรวมๆ ด้วยว่าใช้อะไรบ้าง อย่างไร


ซึ่ง SARMs หรือ Anabolic Steroids แต่ละตัว มันมีคุณสมบัติยิบย่อยต่างกัน และมีกาาคิดค้นเป็นร้อยๆ ตัว SARMs บางตัวก็มีการคิดค้นขึ้นมาเลยว่าถ้าต้องการสร้างกล้ามเนื้อแบบ anabolic steroid แต่ทำตัวตรงข้ามกับต่อมลูกหมากและระบบสืบพันธ์ชาย ก็เลยกลายเป็นว่ารักษาต่อมลูกหมากโตแต่ก็ทำให้กล้ามเนื้อกับกระดูกแข็งแรงไปพร้อมกัน ซึ่งปกติการรักษาโรคนี้จะต้องลดฮอร์โมนชาย ผลก็คือกล้ามเนื้อลดกระดูกอ่อนแอลงนั่นเอง SARMs หลายๆ ตัว เช่น MK2866, LGD4033, S23, RAD140 ก็คือคิดค้นมาเพื่อเป็นหนทางในการรักษาโรคต่างๆ เช่น

  • กระดูกพรุน

  • มะเร็งต่อมลูกหมาก

  • สมรรถภาพทางเพศ (S23)

  • ต่อมลูกหมากโต

  • อัลไซเมอร์

  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อสลาย

  • มะเร็งเต้านม

ตัวที่มีการศึกษามากที่สุดก็คือ Enobosarm หรือ MK2866 (เตรียมตังรอได้เลย 20 mg 60 capsules 1700 บาท อิอิ)

มีการศึกษาจนจบ PHASE 2 แล้วว่าสามารถรักษาโรคกล้ามเนื้อสลายที่เกิดจากโรคมะเร็งได้ แล้วก็มีการทดลองในกลุ่มคนสูงอายุ พบว่า เพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมันได้จริงแล้วก็ยังลดคลอเราโตรอลชนิด HDL ได้ด้วย แล้วไม่ลด Testosterone, LH, FSH (อย่างไรก็ตามขอเสริมว่าโดสที่ใช้มันแค่ 3 มิลลิกรัม ซึ่งต่ำมาก ไม่ใช่สิ่งที่ชาวเราต้องการ ชาวเราใช้ทีก็ 20 + ดังนั้นเป็นการดีที่จะดูค่า testosterone สักสองเดือนครั้ง)

ปลอดภัยกว่า testosterone หรือไม่ ?

ข้อดีของการใช้ Testosterone ในวงการก็คือพลิกแพลงได้ ใช้ยาเสริมได้ ไม่มีเพดานจำกัดเรื่องโดส ไปได้เท่าที่เข้าใจและรับได้ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนบางกลุ่ม SARMs อาจจะดีกว่า คือสามาถดูดซึมโดยการกินได้และไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็น estrogen แต่ว่าสามารถทดแทน Testosterone ในเรื่องอารมณ์ทางเพศได้จริงไหม อันนี้มันยังไม่ชัดมากจนฟันธงได้ แต่จากการศึกษาแล้วรีวิวลูกค้า บางตัวก็เพิ่มอารมณ์ทางเพศได้จริงๆ เช่น S23, MK2866, RAD140 (แต่การเพิ่มอารมณ์ทางเพศกับปริมาณ Testosterone เป็นคนละเรื่องกัน นะครับ)

สรุปจากประสบการณ์ลูกค้าและที่คุยมา

ช่วงหลังๆ มองว่าคนที่มาใช้สินค้าไม่ได้มีแค่นักกล้ามจริงจังแต่มีกลุ่มคนที่อยากกล้ามขึ้นระดับนึงโดยที่หน้ายังเนียนผิวยังไม่เสียและต้องการสินค้าว่าใช้ง่าย อันนี้มองว่าตอบโจทย์ ที่สำคัญคือมันมีข้อได้เปรียบมากบางอย่าง คือ

  • มันไปยุ่งกับระบบฮอร์โมนน้อยกว่า Anabolic Steroids ดังนั้นถ้าจะไม่ใช้ยาฉีด ก็ลืมยาเม็ดที่เป็น Anabolic Steoid เช่น อนาวา ไปได้เลย ใช้ SARMs ดีกว่า

  • บางคนใช้ Testosterone ได้ผลพอใจ อยากเพิ่มของ แต่เมื่อใช้ยาที่ไม่บวม เช่น อนาวา พรีโม ผมร่วงครับ ถ้าตัวอื่น เช่น Dbol Deca ก็พบว่ากลัวบวมหรือบางคนใช้เทสไม่มีปัญหา ใช้ตัวอื่นเสริมปุ๊ปปัญหาเข้า ก็สามารถเสริม SARMs แทนได้นั่นเอง

  • ถ้าเทียบมิลลิกรัมต่อมิลลิกรัม ค่อนข้างแน่นอนว่าเครียดกับตับน้อยกว่ายาเม็ด แล้วที่สำคัญ SARMs แบบเม็ดหรือแคปซูลสามารถถูกดูดซึมได้มากกว่า 95%

อย่างไรก็ตามขอย้ำอีกรอบว่าไม่ได้บอกว่า Anabolic Steroid ไม่ดีหรือว่าล้าหลัง มันดีบางตัวไม่น่าจะสามารถมีอะไรทดแทนได้ถ้าคนใช้ใช้แล้วชอบ เช่น Trenbolone, Deca (Nandrolone) บางตัวก็มีความพิเศษที่แทนไม่ได้ เช่น Halo Tren แต่ผมก็มองว่าคนส่วนมากจะไม่ได้ชอบมันหรอกหรืออยากใช้แต่แรกหรอก แต่แค่ว่าไม่รู้จะใช้อะไร มันก็มาเสียบอยู่กลางๆ เพราะไม่ใช่ว่าคนอยากหุ่นดีจะอยากปักวันเว้นวันทุกคน แล้วสุดท้ายคนที่ชอบใช้ของก็จะไหลไปหา Trenbolone อยู่ดี เอาเป็นว่าผมก็ขายหมดแหละครับ

ก็เดี๊ยวขอฝากยี่ห้อหลักใหม่ด้วยนะครับ SA ANABOLIC ราคาเร้าๆ ของจะเริ่มจาก MK2866 และ S23 นะครับ มาในโดส 20 mg 60 Capsules ราคาดีที่สุดในตลาดแน่นอน เร็วๆ นี้ ครับ




ดู 12,870 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page